เทคนิคการออกแบบ LOGO

       โลโก้เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์และเป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งทาง graphic designer ต่างก็งัดเอาไม้เด็ดและความคิดสร้างสรรค์ใส่ลงไปในผลงาน เพื่อให้ได้โลโก้ที่โดดเด่น เป็นที่ต้องตาของลูกค้า 

1. ทำความรู้จักกับแบรนด์ และหาเป้าหมายของโลโก้ให้เจอ
          การรู้จักแบรนด์ถือเป็นสิ่งแรกๆ ที่ควรทำ เพราะถ้าหากไม่รู้จักแบรนด์ดีพอ ก็ไม่สามารถที่จะออกแบบโลโก้ และสื่อความหมายออกไปได้อย่างถูกต้องและตรงกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ต้องการ นอกจากนี้การ reserch เป้าหมายในการสื่อสารของโลโก้ก็สำคัญไม่แพ้กัน
          สำหรับใครที่ไม่ใช่ graphic designer หรือไม่มีความรู้ทางด้านการออกแบบ เราสามารถเรียนรู้การออกแบบโลโก้ได้ผ่านโลกออนไลน์โดยการศึกษาหาข้อมูลพื้นฐานของการออกแบบโลโก้ และทำความรู้จักกับแบรนด์ให้มากขึ้น ลองศึกษาภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เข้าใจ หาความหมายของการออกแบบโลโก้ให้เจอว่าเราต้องการให้โลโก้ของแบรนด์ออกมาในทิศทางไหน และต้องการจะสื่ออะไรกับลูกค้า

2. สำรวจและศึกษาดีไซน์จากแบรนด์อื่น
          การสำรวจและศึกษาจะไม่ใช่การคัดลอก หากคุณทำเพื่อศึกษาและเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของคุณเอง วิธีการสำรวจและศึกษาโลโก้ของแบรนด์อื่นๆ ทำได้โดยการเสิร์ชใน Google และศึกษารายละเอียดต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการนำมาประยุกต์ใช้กับแบรนด์ของตัวเอง นอกจากนี้การวิเคราะห์โลโก้ของแบรนด์คู่แข่งว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง จะช่วยให้เราสามารถนำมาปรับใช้กับการออกแบบโลโก้ของเราได้

3. รายละเอียดของโลโก้ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของทางแบรนด์
         การออกแบบโลโก้นั้น ต้องอ้างอิงตามภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทั้งในเรื่องของการดีไซน์ สี รูปแบบตัวอักษร เป็นต้น การเลือกสี อาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติมเล็กน้อยว่าความหมายของแต่ละสีเป็นอย่างไร และแบรนด์ของเราควรจะเลือกสีอะไรให้เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ตัวอักษรก็สำคัญเช่นกัน ควรเน้นให้อ่านง่าย สบายตา แต่เลือกรูปแบบตัวอักษรให้เหมาะกับแบรนด์ เพื่อสื่ออารมณ์ให้เหมาะสม อีกทั้งรูปภาพและวัตถุต่างๆ ก็ควรต้องสอดคล้องกับแบรนด์ด้วย
4. ใช้เครื่องมือให้เกิดประโยชน์สูงสุด
          ยุคนี้มีเครื่องมือและแพลตฟอร์มมากมายที่ให้เราสามารถเข้าไปใช้งานได้ โดยมีทั้งแบบฟรีและต้องจ่ายเงิน ก่อนการออกแบบคุณอาจต้องลองวาดไอเดียลงบนกระดาษเสียก่อน เมื่อได้รูปแบบตามต้องการแล้ว ก็ลุยได้เลย!  เครื่องมือออกแบบโลโก้พื้นฐานแบบง่ายๆ ที่สามารถใช้งานได้ฟรีออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น Canva (canva.com) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้คุณออกแบบโลโก้หรืองานดีไซน์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดาย โดยในแพลตฟอร์มนี้มีเครื่องมือมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเวกเตอร์ รูปทรง ฟังก์ชั่นการใส่ตัวอักษรและรูปภาพต่างๆ ซึ่งใช้งานง่าย และช่วยให้งานออกมาดูเป็นมืออาชีพมากๆ 

 5. ใช้ความคิดอันสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้โลโก้ที่โดนใจ
         ความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นอาวุธสำคัญในการออกแบบ ลองติดตามเทรนด์ในโซเชียลมีเดียเพื่อเป็นไอเดียและแรงบันดาลใจ ลองออกแบบให้ดูสะดุดตาและแปลกแหวกแนวเพื่อกระตุ้นความสนใจลูกค้า แต่ต้องสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ และไม่ควรคัดลอกโลโก้ของแบรนด์ใดๆ หรือออกแบบโลโก้ให้คล้ายคลึงกับแบรนด์อื่นๆ เพราะนั้นจะทำให้ตัวตนแบรนด์ของคุณไม่ชัดเจน ภาพลักษณ์ที่มีในมุมมองของลูกค้าไม่ดี และอาจทำให้เกิดปัญหาด้านลิขสิทธิ์ในภายหลัง

เว็บออกแบบโลโก้ฟรี

        การสร้างธุรกิจหรือแบรนด์ของเราให้น่าสนใจนั้น นอกจากผลิตภัณฑ์ นโยบาย การจัดการ ฯลฯ ที่ดีแล้ว โลโก้ของแบรนด์ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย เพราะถ้าลูกค้าหรือคนทั่วไป แค่มองเห็นโลโก้ ก็ทำให้แบรนด์ของเราเป็นที่น่าจดจำขึ้นมาได้แล้ว ทั้งนี้ การออกแบบโลโก้สวยๆ จึงมีความจำเป็นอยู่พอสมควรเลยทีเดียว ไม่ใช่เพื่อความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เพื่อที่จะดึงดูดลูกค้าด้วย
       

         สำหรับเว็บไซต์ต่อมาที่เราจะมาแนะนำกันนั้น เป็นเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ง่ายมาก แถมยังทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยเมื่อเราเข้าเว็บไซต์ ก็สามารถกดที่ Start Logo Maker ได้เลยทันที เมื่อเข้าไปที่หน้าของการออกแบบแล้ว เราก็สามารถเลือกออกแบบโลโก้ของเราได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็น การใส่ข้อความ ตัวอักษร ใส่รูป สัญลักษณ์ รูปทรง ฯลฯ แถมถ้าหากเราสมัครบัญชีแบบฟรี เราก็สามารถที่จะบันทึกงานออกแบบของเราไว้ แล้วกลับมาแก้ไขในภายหลังได้ด้วย สะดวกมากๆ

Website ☛   onlinelogomaker

        สำหรับ Canva นั้น เป็นเว็บไซต์สำหรับการออกแบบที่มีมากมายให้เลือก ไม่ว่าจะเป้นการสร้างสรรค์หน้าปก โปสเตอร์ แต่งรูป รวมไปถึงออกแบบโลโก้ฟรีด้วย แต่สำหรับใครที่ต้องการในระดับโปร ก็จะมีค่าบริการ แต่แค่ใช้งานสำหรับที่เปิดให้ใช้ฟรี ก็ถือว่าเพียงพอมากๆ แล้ว ด้วยเทมเพลตของโลโก้ที่มีให้เลือกมากมายเป็นร้อยๆ แบบ ลูกเล่นก็เยอะ รวมไปถึงฟอนต์ด้วย สำหรับการใช้งานนั้น ก็เริ่มต้นจากการเลือกเทมเพลตของโลโก้ในแบบที่เราต้องการ จากนั้นก็สามารถเลือกใส่ข้อความ รูปภาพ สี ฯลฯ เพื่อให้ได้โลโก้ในแบบที่เราต้องการ นอกจากนี้ตัวเว็บก็ยังรองรับการใช้งานภาษาไทยด้วย เมื่อเราออกแบบโลโก้เสร็ตแล้ว ก็สามารถ Export งานออกมาเป็นไฟล์ PNG นำไปใช้งานได้เลยทันทีแบบฟรีๆ แต่สำหรับไฟล์ SVG นั้น ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 435 บาท/เดือน โดยสามารถทดลองใช้งานได้ฟรี 30 วัน

Website ☛   canva

            สำหรับ Hatchful.shopify นั้น เป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถออกแบบโลโก้ได้แบบฟรีๆ แถมง่ายมาก สามารถ Log in แล้วเข้าใช้งานออกแบบโลโก้ได้เลยทันที โดยเมื่อเข้าไปเราสามารถที่จะเลือกหมวดหมู่ของธุรกิจของเรา จากนั้นก็เลือกสไตล์ที่ต้องกา่่ร แล้วเราก็สามารถแก้ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟอนต์ สี ไอค่อน หรือ Layouts ก็สามารถเลือกสรรได้ตามต้องการเลย

Website ☛   hatchful.shopify

                   Designhill ตัวช่วยออกแบบ logo ของเราให้ทันสมัย ผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์, iPad, Smartphone โดยตัวเว็บจะมีตัวอย่างเทมเพลตให้เลือกมากมาย เพียงแค่กรอกชื่อโลโก้ลงไป ใส่สัญลักษณ์ที่ชื่นชอบ กด generate ก็จะออกมาเป็นโลโก้ให้เราใช้งาน โดยเบื้องต้นนั้นเราสามารถใช้งานออกแบบโลโก้ได้เลยฟรีๆ แต่หากต้องการเพิ่มระดับของการสร้าง ก็อาจจะต้องอัพเกรดเป็นแบบเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งก็จะได้โลโก้ที่มีเอกลักษณ์ที่สวยงามกว่าแบบฟรี โดยราคาเริ่มต้นสำหรับไฟล์ขนาดเล็กนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 480 บาท และในส่วนของแพ็กเกจสำหรับไฟล์ทั้งหมด ย่อขยายได้โดยไม่แตก สามารถปรับแก้ไขได้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,570 บาท
                  ข้อดีของเว็บไซต์นี้คือ จะมีการแนะนำการจัดวางโลโก้ของเราลงบนสินค้า packaging แบบต่างๆ ป้ายหน้าร้านให้เราดูตัวอย่างก่อนการสั่งซื้อและตัดสินใจ และข้อสังเกตก็คือ ไม่สามารถแสดงผลตัวหนังสือภาษาไทยผ่านระบบได้ เราจะต้องซื้อโลโก้มาก่อน ถึงจะแก้ไขได้ด้วยตนเองภายหลัง

Website ☛   designhill

        เว็บไซต์นี้เขาเคลมว่ามีแบรนด์กว่า 1 ล้านแบรนด์มาใช้บริการทำ logo ฟรีกับเขา อยากรู้ว่าดีขนาดไหน ก็ลองใช้ดูได้เลยค่ะ ฟรีแน่นอน ซึ่งเว็บนี้จะช่วยให้คุณสร้าง logo ฟรีได้ง่ายๆ แค่พิมพ์ชื่อบริษัทของคุณ โดยจะมีพรีวิวเทมเพลตกว่าพันตัวอย่างให้คุณเลือก ออกแบบโลโก้ด้วยตัวเองเพียงแค่เปลี่ยนสี รูปร่าง และฟอนต์ หลังจากนั้นก็ดาวน์โหลดได้ฟรี

Website ☛   freelogodesign

หลักการออกแบบฉลากเครื่องสำอาง

         ขวดซอสซึ่งพิมพ์ปริมาณบรรจุที่ฉลากไว้ว่า CONTENT 237 ML ไปหาผู้จัดการของร้าน แล้วถามว่า “คุณคิดว่าซอสขวดนี้จะจุได้ 237 ล้านลิตรเชียวหรือครับ?” ผู้จัดการยืนงงอยู่สักครู่แล้วก็ถึงบางอ้อ เลยรีบขอโทษในความผิดพลาดอันเนื่องจากการใช้ตัวย่อของหน่วยผิด เพราะความจริงฉลากของซอสขวดดังกล่าวต้องพิมพ์ CONTENT 237 mL ซึ่งหมายความว่าความจุของซอสในขวดเป็น 237 มิลลิลิตร บทความนี้ผู้เขียนใคร่ขอนาเสนอสาระของการใช้ตัวย่อของหน่วยที่ปรากฏอยู่ที่ฉลากของสินค้า โดยจะครอบคลุมตัง้ แต่ระบบของหน่วย ตัวย่อของหน่วย และหลักการใช้ตัวย่อของหน่วย ระบบของหน่วยแบ่งได้เป็น 2 ระบบใหญ่ๆ คือ ระบบเมตริกและระบบอังกฤษ ในปัจจุบันระบบเมตริกได้รับความนิยมอย่างสูงแทบทุกประเทศ จนถือได้ว่าเป็นหน่วยสากลระหว่างชาติ และได้รับการกาหนดไว้ใน System International d’ Unites หรือรู้จักกันในชื่อสั้น ๆ ว่าหน่วย SI ส่วนหน่วยระบบอังกฤษนั้น ในปัจจุบันยังคงนิยมใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ แม้ว่าจะมีการแนะนาให้เปลี่ยนมาใช้ระบบเมตริกตัง้ แต่ 1 ตุลาคม 2535 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าใดนัก สินค้าที่จาหน่ายในสหรัฐอเมริกายังมีการใช้หน่วยระบบอังกฤษอยู่อย่างมาก และบางครัง้ ทาความสับสนให้กับผู้บริโภคที่มิใช่คนอเมริกันอย่างเช่นพวกเราการเปลี่ยนหน่วยระบบอังกฤษมาเป็นระบบเมตริก เช่น ความจุที่เคยเป็นออนซ์ (ounce) เปลี่ยนเป็นมิลลิลิตร (millilitre) ความจุที่เคยเป็นควอท (quart) เปลี่ยนเป็นลิตร (litre) น้าหนักจากปอนด์ (pound) เปลี่ยนเป็นกรัม (gram)หรือกิโลกรัม (kilogram) ความยาวจากนิ้ว (inch) หรือ หลา(yard) เปลี่ยนเป็นเซนติเมตร(centimetre) หรือ กิโลเมตร(kilometre)
หลักการใช้ตัวย่อของหน่วยในภาษาอังกฤษ

  1. ปริมาณบรรจุที่นิยมใช้ คือ ปริมาตรเป็นลิตร   (litre) ใช้ตัวย่อว่า L หรือ l ก็ได้ น้าหนักเป็นกรัม (gram) ใช้ตัวย่อว่า g
  2. อักษรนำหน้าหน่วย บ่งบอกถึงจำนวนเท่า เช่น มิลลิ (milli) ใช้ตัวย่อว่า m หมายถึง 1/1000 เท่า กิโล (kilo) ใช้ตัวย่อว่า k หมายถึง1000 เท่า เมกกะ (mega) ใช้ตัวย่อว่า M หมายถึง 1,000,000 เท่า มิลลิลิตร (millilitre) ต้องใช้ตัวย่อว่า ml หรือ mL เท่ากับ 1/1000 ลิตร กิโลกรัม (kilogram) ต้องใช้ตัวย่อว่า kg เท่ากับ 1000 กรัม เมกกะลิตร (megalitre) ต้องใช้ตัวย่อว่า Ml หรือ ML เท่ากับ 1,000,000 ลิตร
  3. ระหว่างตัวเลขและตัวย่อของหน่วย ต้องมีช่องว่างเสมอ จะเขียนติดกันเลยไม่ได้
    ถูก : 237 mL 237 ml 50 kg 300 g 3 L
    ผิด : 237mL 237ml 50kg 300g 3L
  4. ตัวย่อของหน่วยไม่มีรูปเป็นพหูพจน์ คือ ไม่มีการเติม “S” แม้ว่าปริมาณจะมากกว่า 1 ก็ตาม
    ถูก : 250 ml 20 kg 300 g
    ผิด : 250 mls 20 kgs 300 gs
  5. ท้ายของตัวย่อไม่มีจุด ถูก : g l kg ml ผิด : g. l. kg. ml.
    เป็นที่น่าสังเกตว่า นักออกแบบฉลากของบรรจุภัณฑ์บางท่านยังใช้ตัวย่อที่ผิด ดังตัวอย่างต่อไปนี ้ML ต้องการให้หมายถึง milliliter
    ผิด เพราะ ML หมายถึง megalitre ซึ่งมีค่า 1 ล้านลิตร
    KG ต้องการให้หมายถึง kilogram ผิด เพราะ KG หมายถึง Kelvin-giga Kelvin เป็นหน่วยของอุณหภูมิ ส่วน giga หมายถึง 1 พันล้าน
    G ต้องการให้หมายถึง gram ผิด เพราะ G หมายถึง giga ซึ่งเท่ากับ 1 พันล้าน ตัวอย่างตัวย่อของหน่วยที่เขียนผิด และมักพบเห็นบ่อย
    gm gms grm grms GM GM. Kg Kgs KG KGS ML. MLS

        สำหรับหน่วยในภาษาไทย ท้ายของตัวย่อของหน่วยต้องมีจุดเสมอ ถ้ามีพยัญชนะ 2 ตัว จะไม่มีจุดระหว่างพยัญชนะ เช่น มิลลิลิตร ต้องใช้ตัวย่อว่า มล. ลิตร ต้องใช้ตัวย่อว่า ล. กิโลกรัม ต้องใช้ตัวย่อว่า กก. กรัม ต้องใช้ตัวย่อว่า ก. ลูกบาศก์เซนติเมตร ต้องใช้ตัวย่อว่า 〖ซม.〗^3 มิลลิเมตร ต้องใช้ตัวย่อว่า มม. เซนติเมตร ต้องใช้ตัวย่อว่า ซม.   ในประเทศไทยได้มีกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมความสูงของตัวอักษรหรือตัวเลขของปริมาณบรรจุที่ต้องแสดงไว้ที่บรรจุภัณฑ์ทุกหน่วย แม้ว่ากฎหมายนี้จะไม่ใช่เรื่องของหน่วยโดยตรง แต่ก็มีการใช้กับหน่วยของปริมาณบรรจุ จึงขอสรุปมา ณ ที่นี้   กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศเรื่อง “กำหนดชนิดของสินค้าหีบห่อ หลักเกณฑ์ และวิธีการแสดงปริมาณของสินค้าและอัตราเผื่อเหลือเผื่อขาด”   ในปี พ.ศ.2550 ดังสรุปในตารางข้างล่างนี้การแสดงปริมาณของแต่ละหีบห่อ ปริมาณที่แสดง (กรัม หรือมิลลิลิตร) ความสูงของตัวอักษรและตัวเลข ต้องไม่น้อยกว่า (มิลลิลิตร) ไม่เกิน    50 2 เกิน 50 แต่ไม่เกิน 200 3 เกิน 200 แต่ไม่เกิน 1,000 4 เกิน 1,000 6   การแสดงปริมาณของหีบห่อรวม ปริมาณที่แสดง (กรัม หรือ มิลลิลิตร) ความสูงของตัวอักษรและตัวเลข ต้องไม่น้อยกว่า (มิลลิลิตร) ไม่เกิน 50 3 เกิน 50 6   หลักเกณฑ์ของการใช้ตัวย่อของหน่วยที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งไม่ยาก และน่าจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่านบ้าง โดยเฉพาะท่านผู้ประกอบการผลิตสินค้า และนักออกแบบฉลากทัง้ หลาย โปรดให้ความสนใจกับการใช้ตัวย่อของหน่วยบนฉลากซึ่งดูเหมือนเป็นสิ่งเล็กๆน้อยๆ แต่ถ้าผิดพลาดขึ้น มาก็คงจะน่าอายเหมือนกัน เพราะข้อความ Product of Thailand และ ชื่อบริษัทของท่าน ซึ่งปรากฏบนสินค้านั้น จะฟ้องตัวเองอย่างชัดเจน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้